ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อย่ามองว่าเป็นแค่กาฝาก

อย่ามองว่าเป็นแค่กาฝาก



อย่างที่เคยเขียนเกี่ยวกับต้นทับทิมว่าเป็นต้นไม้มงคล ทับทิมไม้มงคลความหมายดี ผู้เขียนจึงปลูกต้นทับทิมไว้ที่หน้าบ้าน ซึ่งต้นสูงเลยรั้วบ้านแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อนขณะรดน้ำต้นไม้ ผู้เขียนสังเกตเห็นกาฝาก วิกิพีเดีย กาฝาก กิ่งเล็ก ๆ เกาะอยู่บนยอดทับทิม แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็แค่กาฝาก และต้นทับทิมก็สูงมาก ถ้าจะตัดกาฝากออกต้องปีนบันไดขึ้นไป อย่างนั้นเอาไว้ก่อนละกัน 



จากนั้นไม่กี่เดือนต่อมา สังเกตว่าต้นทับทิมที่เคยมีใบเขียวสดชื่น กลับแห้งเหี่ยว ส่วนเจ้ากาฝากกลับมีกิ่งก้านและรากที่โตขึ้นมาก ยึดเกาะกิ่งทับทิมอย่างแน่นหนา เจ้ากาฝากดูดอาหารจากต้นทับทิมนี่เองทำให้ทับทิมเหี่ยวแห้ง



ถ้าปล่อยให้ต้นทับทิมยืนแห้งอยู่หน้าบ้านแบบนี้ไม่ดีแน่ มองแล้วหดหู่ดูไม่สดชื่น ผู้เขียนจึงคิดว่าควรตัดออกทั้งต้น แต่เครื่องมือมีเพียงกรรไกรตัดกิ่งไม้กับใบเลื่อยเล็ก ๆ เท่านั้น

 


แม้เครื่องมือไม่พร้อมแต่ใจพร้อมลุยเลยละกัน แล้วปฏิบัติการเคลียร์คืนความสดชื่นก็เริ่มขึ้น โดยการปีนบันไดขึ้นไปตัดกิ่งที่สามารถตัดได้ก่อน กว่าจะตัดเสร็จเล่นเอามือระบม เพราะกิ่งทับทิมแข็งมีหนามแหลมคม กรรไกรก็เล็กเกิน ถ้าได้กรรไกรตัดกิ่งไม้อันใหญ่คงจะดีไม่น้อย เมื่อตัดกิ่งหมดแล้ว ทีนี้ ก็มาใช้ใบเลื่อยค่อย ๆ เลื่อยลำต้น นึกภาพตามนะคะ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กับใบเลื่อยหนึ่งอัน และต้นทับทิมที่สูงเลยกำแพง แต่สุดท้ายก็เลื่อยลำต้นลงมากองได้สำเร็จ เย้ ๆ ฉันทำได้




พอเอาต้นทับทิมที่แห้งแล้งออกได้ก็โล่งเลยค่ะ แต่งานที่ใหญ่กว่านั้น คือจะทำยังไงกับกิ่งก้านลำต้นที่ตัดลงมานี่สิ จะกองแบบนี้แล้วให้รถเก็บขยะมาเก็บคงจะไม่ได้แน่ เพราะบ้านผู้เขียนรถเก็บขยะจะเข้ามาเก็บสัปดาห์ละครั้ง ผู้เขียนจึงต้องใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ค่อย ๆ ตัดกิ่งทับทิมเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยใส่ในถุงดำขนาดใหญ่ เพื่อสะดวกในการให้รถเก็บขยะมาเก็บ



ตัดไปก็เจ็บมือไป ทำบ้างพักบ้าง ในที่สุดก็สามารถจัดการย่อยกิ่งก้านและลำต้นทับทิมได้สำเร็จ งานนี้ใช้เวลา 2 วันเต็ม 



เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะประมาณนี้ค่ะ โล่ง โปร่งสบาย เตรียมหาต้นไม้สวย ๆ มาลงในสวนได้อีกเยอะ 



2 วันของการตัดต้นทับทิม ทำให้คิดได้ว่าเราไม่ควรประมาทกับชีวิต เรื่องบางเรื่องที่เรามองว่าเล็กน้อยไม่น่าจะมีอะไร หากปล่อยปละละเลย อาจทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิตก็เป็นได้ เหมือนกับที่ปล่อยกาฝากไว้ตั้งแต่วันแรกที่เห็น และการแก้ปัญหาถ้าเราใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เราก็จะเหนื่อยน้อยลง


วันนี้ผู้เขียนจึงไปเลือกซื้อกรรไกรตัดกิ่งไม้อันใหม่ที่ใหญ่และใช้งานได้เบาแรงกว่าอันเดิม เตรียมพร้อมไว้ก่อน เพราะชอบปลูกต้นไม้ ผู้เขียนแปะลิงก์ร้านขายกรรไกรตัดกิ่งไม้ไว้แล้ว หากเพื่อน ๆ สนใจเข้าไปเลือกดูได้เลยค่ะ


ร้าน Shopee 

https://raka.is/r/XRGN 

กรรไกร Topman 8.5 นิ้ว ของญี่ปุ่น ราคา 900 บ.


https://raka.is/r/gEKV

IMAX กรรไกรตัดกิ่งไม้แบบยืดได้ ผ่อนแรง ยาว 67.5-102ซ.ม. 

ของญี่ปุ่น ราคา 850 บ.


https://raka.is/r/BogM

กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้ ด้ามจับปรับความยาวได้ 5 ระดับ ยืดได้ 1 เมตร

ราคา 459 บ.


https://raka.is/r/lY9D

INGCO กรรไกรตัดกิ่ง ด้ามยาว 30 นิ้ว (740 มม.) ตัดเร็ว รุ่น HLT7401 (Fast Cut Lopper) ราคา 363 บ.


https://raka.is/r/WpRx

กรรไกรตัดกิ่งไม้ด้ามอลูมิเนียม ยืดได้ถึง 1.3เมตร ใบมีดยาว 7.5ซม(3นิ้ว) ปรับความยาวได้5ระดับ ราคา 580 บ.



หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ

แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ



ติดตามผลงานผู้เขียน


Facebook : Phaka Tip


Blogger: Phakatip


Page: Crafts from Clay


ความคิดเห็น

  1. หลายบ้านเจอปัญหาแบบนี้เลยค่ะ ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งรก เกินกว่าจะทำเองได้

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณบทความดีๆได้แง่คิดด้วยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ด้วยความยินดีค่ะ ขอบคุณที่กีกี้เข้ามาให้กำลังใจนะคะ

      ลบ
  3. สนุกและได้แง่คิดด้วยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ พี่ปูเจแปน 😊💕

      ลบ
  4. เรื่องเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เราคิดในวันข้างหน้า ...

    อ่านบทความคุณจินแล้วดีต่อ ❤ ค่ะ

    ตอบลบ
  5. เป็นเรื่องราวที่ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มารู้จักเครื่องอบขนมอาลัว

  มารู้จักเครื่องอบขนมอาลัว เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่เริ่มเข้าสู่โลกโซเชียลใหม่ ๆ เลื่อนหน้าเฟส สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ขนมอาลัวดอกกุหลาบสวย ๆ ผู้เขียนได้แต่มอง & สงสัยว่าเขาทำกันยังไงนะ ลำพังอาลัวธรรมดาที่เป็นรูปหยดน้ำก็พอจะเข้าใจวิธีบีบแป้ง แต่สำหรับอาลัวกุหลาบ 555 ตอนนั้นตีลังกาคิดอยู่หลายวันว่าเขาทำกันยังไงก็คิดไม่ออก เพราะไม่มีความรู้เรื่องการทำขนมเลยค่ะ กฎแรงดึงดูดทำงานตลอดเวลา เราคิดถึงสิ่งใดเราจะยิ่งเห็นสิ่งนั้น นอกจากภาพอาลัวจะมาปรากฎที่หน้าเฟสทุกครั้งแล้ว อีกไม่กี่วันต่อมาผู้เขียนก็ได้เจอคอร์สสอนทำขนมอาลัวกุหลาบ ซึ่งสมัยนั้นมีผู้สอนน้อยราย และไม่เป็นที่เผยแพร่นัก คอร์สนี้เป็นคอร์สที่ต้องไปเรียนกับผู้สอนโดยตรง ไม่ใช่คอร์สออนไลน์อย่างในปัจจุบัน ผู้เขียนจึงรีบหาเวลาไปเรียนทันที  เมื่อไปเรียนแล้ว บอกเลยว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก ที่่ว่าไม่ยากนั่นคือ อาลัวเป็นขนมที่มีส่วนผสมน้อยชนิดและมีวิธีทำที่แสนจะธรรมดา ขอแค่ใส่ใจและมีเทคนิิคเล็กน้อย แต่ที่บอกว่าไม่ง่ายนั่นก็คือ จะทำอย่างไรให้ขนมแห้ง กรอบและมีสีสวยน่ากินนี่สิ ดั้งเดิมนั้น อาลัวเป็นขนมที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่

ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่ Pixabay ทุกคนต้องมีครั้งแรกใช่ไหมคะ  การระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในครั้งนี้ ก็ทำให้ผู้เขียนมีประสบการณ์ ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ เช่นกันค่ะ เนื่องจากในวันที่ 6 ม.ค. 2564 ผู้เขียนมีนัดพบคุณหมอที่แผนกอายุรกรรม รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่ ซึ่งเป็นการนัดเพื่อรับยาตามปกติ (เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลาย….ก็มักจะมีโรคประจำตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างเป็นธรรมดา จริงไหมคะ) เมื่อมีสถานการณ์ Covid-19 ที่ทุกคนต้องดูแลตนเอง เพราะไม่รู้ว่าเราจะไปใกล้ชิดคนที่มีเชื้อเมื่อไหร่ ผู้เขียนก็รู้สึกกังวลว่าเราจะไปดีมั้ย จะเสี่ยงหรือไม่ เพราะการไปรพ. ก็เป็นจุดที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ยาประจำตัวก็จะหมด ถ้าไม่ไปรพ. แล้วจะเอายาที่ไหนกินล่ะทีนี้   ขณะที่กำลังชั่งใจอยู่นั้น ก่อนวันนัด 2 วัน คือวันที่ 4 ม.ค. ทางโรงพยาบาลก็โทรมา โดยคุณพยาบาลโทรมาแจ้งว่า ผู้เขียนมีนัดพบคุณหมอในวันที่ 6 นี้ แต่ด้วยสถานการณ์ Civid-19 คนไข้จะมาพบคุณหมอตามนัดหรือจะให้คุณหมอโทรพูดคุยปรึกษาอาการทางโทรศัพท์ดีคะ และหากคุณหมอสั่งยา ทางรพ.จะส่งยาให้ทางไปรษณีย์ ไม่ต้องกังวล โอ้โฮ…