ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จิบกาแฟแลงานศิลป์ที่ The Art House Cafe เรือนศิลป์แสนขัติยรัตน์

จิบกาแฟแลงานศิลป์ 

ที่ The Art House Cafe เรือนศิลป์แสนขัติยรัตน์ คลอง 11


วันก่อนผู้เขียนมีโอกาสไปทำธุระแถวคลอง 12 ธัญบุรี เสร็จธุระแล้ว ขากลับน้องสาวก็ชวนให้แวะร้านกาแฟ ผู้เขียนยังคิดว่าบนถนนเลียบคลองธัญญะเส้นนี้ไม่น่าจะมีร้านกาแฟนะ 


สักพักพอรถมาถึงบริเวณคลอง 11 น้องก็เลี้ยวรถเข้าซอยเล็ก ๆ 

เราก็ได้พบกับเรือนศิลป์แสนขัติยรัตน์ ซึ่งเป็นแกลลอรีแสดงผลงานพุทธศิลป์ของ รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ และมีร้านกาแฟ The Art House Cafe ไว้ต้อนรับผู้มาเยือน


ภาพโดยผู้เขียน


รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ เป็นศิลปินที่สร้างสรรผลงานทางด้านพุทธศิลปไว้มากมาย มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะแยะ เรือนแสนขัติยรัตน์จึงเป็นสถานที่แสดงผลงานอันทรงคุณค่าของท่าน และเป็นสถานที่ให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา แฟนคลับและบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบในงานศิลปะได้เข้ามาชื่นชมผลงาน


ภาพโดยผู้เขียน


เมื่อเราจอดรถที่บริเวณด้านนอก แล้วเดินเข้ามาด้านใน บรรยากาศร่มรื่นเหมือนสวนภายในบ้าน บริเวณด้านซ้ายมือจะเป็นร้านกาแฟ The Art House Cafe ในภาพน้องไซบีเรียน มายืนต้อนรับพวกเราค่ะ


ขับรถมาเหนื่อย ๆ ขอแวะเข้าไปรับแอร์เย็น ๆ จิบกาแฟร้อน ๆ เพื่อผ่อนคลายก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวค่อยออกมาชมงานพุทธศิลป์อันงดงามที่จัดแสดงด้านนอกกันต่อค่ะ


เข้ามาภายในร้านเราจะได้พบกับ

น้อง ๆ พนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใสให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองค่ะ











ภาพจากเพจ:The Art House Cafe


ภายในร้านจัดวางที่นั่งหลากหลายมุม หลายบรรยากาศ

มุมนี้เป็นการจัดวางโต๊ะแบบสบาย ๆ หันหน้าออกด้านนอก ทำให้เห็นบรรยากาศสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ ได้เลยค่ะ เหมาะกับผู้ที่มาคนเดียวหรือมา 2 คน นั่งสบาย ๆ สไตล์วัยรุ่น






ภาพจากเพจ :The Art House Cafe


หรือมุมแบบนั่งรวมกัน เพื่อปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ภายในร้านโดยรอบจะประดับด้วยภาพผลงานศิลปะฝีมือของท่าน อ.สุวัฒน์ งดงามและเลอค่ามาก ๆ ค่ะ







ภาพจากเพจ: The Art House Cafe

เมื่อเลือกที่นั่งได้แล้ว  ก็ถึงเวลาสั่งเครื่องดื่ม เมนูที่นี่มีทั้งเครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็น ขนมเค้ก ของว่างต่าง ๆ


วันนี้ผู้เขียนเลือกสั่งกาแฟคาปูชิโน รสกลมกล่อม กลิ่นหอม ๆ เสริฟพร้อมกับน้ำชาร้อน ๆ ชุ่มคอจริง ๆ 


ถึงวันนี้จะมาหลายคน แต่ผู้เขียนก็เลือกนั่งโต๊ะติดหน้าต่าง เพื่อจะได้มองบรรยากาศภายนอกที่ร่มรื่น ลึก ๆ ก็อยากบอกว่า ฉันโหยหาธรรมชาติมานานแล้ว เดี๋ยวจิบกาแฟเสร็จฉันจะออกไปสัมผัสธรรมชาติและเสพย์งานพุทธศิลป์ที่ภายนอกให้ชุ่มชื่นหัวใจ


ภาพถ่ายโดยผู้เขียน


คาปูชิโนร้อน ๆ หอม ๆ ตกแต่งด้วยแบรนด์ของทางร้านอย่างงดงาม ชวนให้รำลึกถึงท่าน รศ.ดร.สุวัฒน์ เป็นยิ่งนัก  


สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่นี่ก็มีให้บริการนะคะ ทั้งกาแฟ ชาเขียว โกโก้ จะแบบปั่นหรือไม่ปั่น ฯลฯ เลือกสั่งได้เลยค่ะ







ภาพจากเพจ:The Art House Cafe


ภายในร้านก็เป็นแกลลอรีย่อม ๆ ที่แสดงผลงานของท่าน อ.สุวัฒน์ 

แต่ผู้เขียนเก็บบรรยากาศมาเพียงบางส่วน


เมื่อนั่งพักพอสบายใจและจิบกาแฟเสร็จแล้ว อยากบอกว่าทุกอย่างดีงามค่ะกาแฟหอมอร่อย ราคาน่ารักมาก ๆ ไม่ได้ราคาสูงอย่างที่เราเห็นตามร้านในกรุงเทพฯ หรือในห้างดัง ๆ  นะคะ


เติมพลังกันแล้ว ก็ถึงเวลาออกมาชมบรรยากาศภายนอกกันต่อค่ะ


เมื่อออกมาภายนอกร้าน บริเวณโดยรวมเรียกได้ว่าเป็นแกลลอรี่ที่อยู่กับธรรมชาติอันร่มรื่นทีเดียว








ภาพจากเพจ: The Art House Cafe


สิ่งที่แนะนำให้ชมเป็นอันดับแรกคือ องค์พระพิฆเณศวรประทับยืน  ซึ่งตรงนี้เราสามารถมากราบขอพรท่านได้นะคะ พระพิฆเณศวรเป็นบิดาแห่งความสำเร็จในศาสตร์แห่งงานศิลปะทั้งปวง

















ภาพโดยผู้เขียน



เมื่อเดินถัดเข้าไปจะพบกับองค์พระพิฆเณศวรปางนั่ง ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าเรือนไม้ ขอบอกว่างดงามยิ่งนักเช่นกัน


ภาพโดยผู้เขียน


ส่วนฝั่งตรงข้าม ตั้งแสดงรูปปฏิมากรรมองค์พญาครุฑ อยู่ด้านหน้าอาคาร ซึ่งเราจะเห็นตัวอักษร "สุ" อันเป็นสัญลักษณ์แทนตัว รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์


ภาพโดยผู้เขียน


ที่นี่ยังมีผลงานอีกมากมายหลายชิ้นของท่าน อ.สุวัฒน์  แต่ด้วยเวลาจำกัด ผู้เขียนต้องไปธุระต่ออีกหลายแห่ง จึงต้องอำลาสถานที่แห่งนี้ไปก่อน


ภาพโดยผู้เขียน


ยังมีผลงานศิลปะอีกหลายชิ้นที่จัดแสดงทั่วบริเวณ แต่ผู้เขียนเก็บภาพบรรยากาศมาไม่หมดค่ะ


ภาพโดยผู้เขียน


หากถามว่า สิ่งใดเป็นจุดเด่นของที่นี่ ก็ต้องบอกว่าที่นี่คือหอศิลป์ที่จัดแสดงผลงานพุทธศิลปของท่าน รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ ที่งดงามทรงคุณค่าและอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ (เลยมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรีมาอีก 5 คลอง)


เชื่อว่าหากใครได้มาที่นี่แล้ว นอกจากเครื่องดื่มอร่อยแล้ว จะได้รับความสุขใจจากการชมงานพุทธศิลปของท่าน รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ อย่างแน่นอน


ภาพโดยผู้เขียน


เมื่อเดินออกมา น้องไซบีเรียนก็เดินมาส่ง น้องน่ารักมาก ๆ ค่ะ


สำหรับท่านที่ชื่นชอบในงานศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นงานภาพเขียน หรืองานปฏิมากรรมแนวพุทธศิลป 

ผู้เขียนแนะนำให้ท่านหาโอกาสแวะมาเยี่ยมเยือนที่นี่สักครั้ง แล้วคุณจะต้องมาครั้งที่สองอีกอย่างแน่นอน


ร้านปิดทุกวันพุธ แต่เพื่อความมั่นใจ ก่อนมาแนะนำให้สอบถามกับทางร้านก่อนนะคะ



ที่ตั้งร้าน

The Art House Cafe

จิบกาแฟแลงานศิลป์

เปิดบริการ 08:00 - 17:00 น.  

ปิดทุกวันพุธ

โทร 086 365 9759


The Art House Cafe 

เรือนแสนขัติยรัตน์

24/6 ม.11 ถ.เลียบคลอง 11

ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ

จ.ปทุมธานี


The Art House cafe เรือนศิลป์แสนขัติยรัตน์ คลอง 11



ขอบคุณกาแฟหอม ๆ อร่อย ๆ บรรยากาศดี ๆ และงานพุทธศิลป์อันทรงคุณค่าของท่าน รศ.ดร.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์

ความคิดเห็น

  1. ดูร้านแล้วสงบ น่านั่ง เหมาะกับอารมณ์ติสท์ ๆ เลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ดูร้านแล้วสงบ น่านั่ง เหมาะกับอารมณ์ติสท์ ๆ เลยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เจ้าของเป็นศิลปินค่ะ คุณนายหมู บรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ ถ้าผ่านเส้นธัญบุรี แนะนำให้แวะเลยค่ะ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มารู้จักเครื่องอบขนมอาลัว

  มารู้จักเครื่องอบขนมอาลัว เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่เริ่มเข้าสู่โลกโซเชียลใหม่ ๆ เลื่อนหน้าเฟส สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ขนมอาลัวดอกกุหลาบสวย ๆ ผู้เขียนได้แต่มอง & สงสัยว่าเขาทำกันยังไงนะ ลำพังอาลัวธรรมดาที่เป็นรูปหยดน้ำก็พอจะเข้าใจวิธีบีบแป้ง แต่สำหรับอาลัวกุหลาบ 555 ตอนนั้นตีลังกาคิดอยู่หลายวันว่าเขาทำกันยังไงก็คิดไม่ออก เพราะไม่มีความรู้เรื่องการทำขนมเลยค่ะ กฎแรงดึงดูดทำงานตลอดเวลา เราคิดถึงสิ่งใดเราจะยิ่งเห็นสิ่งนั้น นอกจากภาพอาลัวจะมาปรากฎที่หน้าเฟสทุกครั้งแล้ว อีกไม่กี่วันต่อมาผู้เขียนก็ได้เจอคอร์สสอนทำขนมอาลัวกุหลาบ ซึ่งสมัยนั้นมีผู้สอนน้อยราย และไม่เป็นที่เผยแพร่นัก คอร์สนี้เป็นคอร์สที่ต้องไปเรียนกับผู้สอนโดยตรง ไม่ใช่คอร์สออนไลน์อย่างในปัจจุบัน ผู้เขียนจึงรีบหาเวลาไปเรียนทันที  เมื่อไปเรียนแล้ว บอกเลยว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก ที่่ว่าไม่ยากนั่นคือ อาลัวเป็นขนมที่มีส่วนผสมน้อยชนิดและมีวิธีทำที่แสนจะธรรมดา ขอแค่ใส่ใจและมีเทคนิิคเล็กน้อย แต่ที่บอกว่าไม่ง่ายนั่นก็คือ จะทำอย่างไรให้ขนมแห้ง กรอบและมีสีสวยน่ากินนี่สิ ดั้งเดิมนั้น อาลัวเป็นขนมที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่

ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่ Pixabay ทุกคนต้องมีครั้งแรกใช่ไหมคะ  การระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในครั้งนี้ ก็ทำให้ผู้เขียนมีประสบการณ์ ครั้งแรกกับการปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์ เช่นกันค่ะ เนื่องจากในวันที่ 6 ม.ค. 2564 ผู้เขียนมีนัดพบคุณหมอที่แผนกอายุรกรรม รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่ ซึ่งเป็นการนัดเพื่อรับยาตามปกติ (เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลาย….ก็มักจะมีโรคประจำตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างเป็นธรรมดา จริงไหมคะ) เมื่อมีสถานการณ์ Covid-19 ที่ทุกคนต้องดูแลตนเอง เพราะไม่รู้ว่าเราจะไปใกล้ชิดคนที่มีเชื้อเมื่อไหร่ ผู้เขียนก็รู้สึกกังวลว่าเราจะไปดีมั้ย จะเสี่ยงหรือไม่ เพราะการไปรพ. ก็เป็นจุดที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ยาประจำตัวก็จะหมด ถ้าไม่ไปรพ. แล้วจะเอายาที่ไหนกินล่ะทีนี้   ขณะที่กำลังชั่งใจอยู่นั้น ก่อนวันนัด 2 วัน คือวันที่ 4 ม.ค. ทางโรงพยาบาลก็โทรมา โดยคุณพยาบาลโทรมาแจ้งว่า ผู้เขียนมีนัดพบคุณหมอในวันที่ 6 นี้ แต่ด้วยสถานการณ์ Civid-19 คนไข้จะมาพบคุณหมอตามนัดหรือจะให้คุณหมอโทรพูดคุยปรึกษาอาการทางโทรศัพท์ดีคะ และหากคุณหมอสั่งยา ทางรพ.จะส่งยาให้ทางไปรษณีย์ ไม่ต้องกังวล โอ้โฮ…