มารู้จักเครื่องอบขนมอาลัว
เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่เริ่มเข้าสู่โลกโซเชียลใหม่ ๆ เลื่อนหน้าเฟส สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ขนมอาลัวดอกกุหลาบสวย ๆ ผู้เขียนได้แต่มอง & สงสัยว่าเขาทำกันยังไงนะ
ลำพังอาลัวธรรมดาที่เป็นรูปหยดน้ำก็พอจะเข้าใจวิธีบีบแป้ง แต่สำหรับอาลัวกุหลาบ 555 ตอนนั้นตีลังกาคิดอยู่หลายวันว่าเขาทำกันยังไงก็คิดไม่ออก เพราะไม่มีความรู้เรื่องการทำขนมเลยค่ะ
กฎแรงดึงดูดทำงานตลอดเวลา เราคิดถึงสิ่งใดเราจะยิ่งเห็นสิ่งนั้น นอกจากภาพอาลัวจะมาปรากฎที่หน้าเฟสทุกครั้งแล้ว อีกไม่กี่วันต่อมาผู้เขียนก็ได้เจอคอร์สสอนทำขนมอาลัวกุหลาบ ซึ่งสมัยนั้นมีผู้สอนน้อยราย และไม่เป็นที่เผยแพร่นัก คอร์สนี้เป็นคอร์สที่ต้องไปเรียนกับผู้สอนโดยตรง ไม่ใช่คอร์สออนไลน์อย่างในปัจจุบัน ผู้เขียนจึงรีบหาเวลาไปเรียนทันที
เมื่อไปเรียนแล้ว บอกเลยว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก ที่่ว่าไม่ยากนั่นคือ อาลัวเป็นขนมที่มีส่วนผสมน้อยชนิดและมีวิธีทำที่แสนจะธรรมดา ขอแค่ใส่ใจและมีเทคนิิคเล็กน้อย แต่ที่บอกว่าไม่ง่ายนั่นก็คือ จะทำอย่างไรให้ขนมแห้ง กรอบและมีสีสวยน่ากินนี่สิ
ดั้งเดิมนั้น อาลัวเป็นขนมที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม คุณท้าวทองกีบม้า ภริยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนัก เป็นผู้คิดประดิษฐ์วิธีทำขนมอาลัว โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในสมัยนั้น อันมีแป้ง กะทิ น้ำตาล มาปรุงจนเกิดเป็นขนมอาลัว
การทำขนมอาลัวได้มีการถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน มีการดัดแปลงปรับสูตร ปรับวิธีการทำให้เข้ากับยุคสมัย จากวิธีหยอดแป้งธรรมดามาเป็นการใช้กรวยและหัวบีบแป้ง จัดแต่งให้เป็นรูปดอกไม้ชนิดต่าง ๆ อย่างที่เราได้เห็นในปัจจุบัน เป็นการยกระดับขนมอาลัวให้ดูหรูหรา มีคุณค่า อีกทั้งราคาไม่เบากันเลยทีเดียว
มาถึงตรงนี้ หลายท่านคงอยากรู้วิธีทำอาลัวกันแล้วใช่ไหมคะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
กะทะเทฟล่อน
พายซิลิโคน
กะละมังภาชนะผสมแป้ง
ถ้วยตวง
ช้อนตวง
ถุงบีบ พร้อมหัวบีบ
เครื่องอบผลไม้แห้ง หรือบางคนอาจจะ
เรียกเครื่องอบลมร้อน
สูตรอาลัว
- แป้งบัวแดง 1 ถ้วยครึ่ง
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
- กะทิอร่อยดี 2 ถ้วยครึ่ง
- กลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหาร สีน้ำ / สีผง ตามสะดวกค่ะ
วิธีทำ เล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ นะคะ
1. แป้ง+น้ำตาล ใส่ในภาชนะผสมคนให้เข้ากันไม่ต้องร่อนค่ะ
2.เทแป้งที่ผสมลงกะทะเทฟล่อน ยังไม่ต้องเปิดไฟ ใส่กะทิ 1 ถ้วยตวงลงไป
คนให้ละลาย เอาแค่แป้งละลาย แป้งไม่เป็นเม็ด
3.ใส่กะทิที่เหลือ 1 1/2 ถ้วย เติมกลิ่นลงไป เปิดไฟค่อนไปทางแรงก่อน เพราะกะทะหนา กวนสักพักเมื่อกะทะร้อนดีแล้วค่อยลดไฟเป็นไฟปานกลาง
4.กวนจนแป้งสุกไม่ติดกะทะ แต่ไม่ถึงกับแห้งร่อน เอาแค่แป้งสุกและมีลักษณะวาว ๆ
5.ปิดไฟยกกะทะลงและตักแป้งออกใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
6.พักไว้ให้หายร้อน
7. แบ่งแป้งที่กวนเสร็จมาผสมสี
ใช้พายคนให้เนื้อขนมเข้ากันดี
8.ตักใส่ถุงบีบ ที่มีหัวบีบกุหลาบ
9.แป้งกวนที่เหลือในภาชนะ เอาผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดคลุมไว้
10. บีบขนมเป็นดอกกุหลาบ โดยใช้กระดาษรองขนมก่อน หรือบีบเป็นรูปอื่นตามต้องการ
อาลัวไม่ว่าจะเป็นแบบหยด หรือแบบดอกกุหลาบ เมื่อทำเสร็จ จะต้องนำไปตากแดดจัด ๆ สัก 2 วัน เพื่อให้ผิวขนมแห้ง กรอบ จึงจะได้ขนมอาลัวกรอบอร่อย
แต่ด้วยปัจจุบันสภาพอากาศที่เราควบคุมไม่ได้ และฝุ่นควันมลพิษอีกสารพัด การนำขนมไปตากแดดไม่น่าจะตอบโจทย์เรื่องความสะอาด อีกทั้งตากแดดนาน ๆ ไป สีขนมก็จะซีดจางไม่น่ากิน
ตรงนี้ผู้เขียนมีตัวช่วยค่ะ นั่นคือ เครื่องอบผลไม้แห้งของ "วีรสุ" หรือที่บางคนมักเรียกว่าเครื่องอบลมร้อน เครื่องนี้จะช่วยให้การทำขนมอาลัวง่ายขึ้น เพราะเมื่อเราบีบขนมเสร็จ เราก็นำขนมจัดเรียงลงในถาด
จากนั้น ปิดฝา เสียบปลั๊กแล้วตั้งเวลา ตั้งระดับความร้อนค่ะ
ตรงนี้ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ความร้อนปานกลาง ตั้งเวลาที่ 2 ชม. ก่อนนะคะ เมื่อครบ 2 ชม. แล้วให้สลับถาดโดยนำถาดที่อยู่ล่างสุดมาวางแทนที่ถาดบน (ถาดบนสุดใกล้กับเครื่องทำความร้อน) สลับถาดจากถาดที่ 1- 4 วนไปทำเช่นนี้ทุก ๆ 2 ชม. เพื่อให้ขนมได้รับความร้อนทั่วถึง
เวลาในการอบขึ้นอยู่กับแบบที่เราทำและระดับความร้อนที่ใช้
ถ้าบีบแป้งเป็นหยดธรรมดาหรือรูปส้ม
ใช้เวลาอบประมาณ 8-10 ชม.
ถ้าบีบเป็นดอกกุหลาบ
ใช้เวลาอบประมาณ 12-15 ชม.
เครื่องอบผลไม้แห้งนี้ เมื่ออบขนมอาลัวแล้ว ทำให้มั่นใจในเรื่ิองความสะอาด ป้องกันฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมจะปลิวมาลงขนม อีกทั้งเราควบคุมความร้อนให้คงที่ได้ ที่สำคัญช่วยให้สีขนมสดใส ไม่ซีดจางเหมือนตากแดด
เครื่องอบผลไม้แห้งของ วีรสุ
ประกอบไปด้วย
ฐานรองถาด 1 ชิ้น
ชั้นใส่ขนม 4 ชิ้น
(ผู้เขียนชอบเรียกว่าถาด)
ฝาที่มีเครื่องทำความร้อน 1 อัน
ตรงนี้สามารถปรับความร้อนได้ 3 ระดับ ตั้งเวลาได้ 12 ชั่วโมง
เครื่องอบผลไม้แห้งมีหลายยี่ห้อ
แต่ที่ผู้เขียนเลือกใช้ของวีรสุ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง อันดับแรกคือ
มั่นใจในแบรนด์ชื่อเสียงของวีรสุ ต่อมาคือคุณภาพ ถาดใส่ขนมทำจากพลาสติคเกรดดี มีความหนาทนทาน ทนความร้อน มีรูปทรงสวยงาม ใช้งานสะดวก
ถาดออกแบบมากว้าง สูง พอเหมาะสำหรับการใส่ขนม ล้างทำความสะอาดง่าย การดูแลรักษาง่ายมาก ๆ หากมีปัญหาใด ๆ ก็สามารถติดต่อกับวีรสุได้โดยตรง
เครื่องอบผลไม้แห้งที่ใช้อยู่นี้ ผู้เขียนซื้อเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วค่ะ โดยซื้้อในช่วงโปรโมชั่นประจำปีของวีรสุ ในราคาพิเศษ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 2 พันกว่าบาท
แต่ราคาในตอนนี้ ประมาณ 3 - 4 พันกว่าบาท
เมื่อเราอบอาลัวได้ที่แล้ว เราก็นำออกจากถาดมาผึ่งให้คลายความร้อน เมื่อขนมเย็นแล้วจึงนำมาอบควันเทียนและบรรจุลงกล่องเพื่อเก็บไว้กินได้นาน ๆ หรือจะนำไปเป็นของขวัญของฝาก จำหน่ายเป็นรายได้เสริมในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ได้นะคะ
นอกจากเครื่องอบผลไม้แห้งนี้จะใช้อบขนมอาลัวได้กรอบอร่อยแล้ว ยังทำวุ้นกรอบได้ด้วยค่ะ สามารถอบผลไม้ได้อีกหลากหลายชนิด เช่น กล้วย มะม่วงแผ่น (กวนแผ่น) ลำไย อบดอกอัญชัน หรือทำหมูแดดเดียว ฯลฯ
คือมีเครื่องอบผลไม้แห้งของวีรสุเพียงเครื่องเดียว สามารถทำขนม ทำผลไม้แห้งได้หลากหลายค่ะ
หากเพื่อน ๆ สนใจเครื่องอบผลไม้แห้งของวีรสุ ติดต่อได้ที่เพจ วีรสุ นะคะ
ผู้เขียนขอตัวไปกินอาลัวแสนอร่อยก่อนนะคะ
*ผู้เขียนเคยเขียนบทความแนะนำ
ร้านขายขนมอาลัวออนไลน์ไว้แล้วใน Blockdit ติดตามอ่านที่ลิ้งค์นี้นะคะ อาลัวกุหลาบ
และมีบทความวิธีทำสัมปันนี สัมปันนีทำกินเองง่าย ๆ ทำขายก็ได้ตังค์
ขอบคุณทุก ๆ การติดตาม
แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ
ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
ขอบคุณ
ติดตามผลงานของผู้เขียนได้ที่
Face book : Phaka Tip สอนทำจำปีจำปาดินไทย
FB Page: ไม้มงคล เสริมความร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง
Blockdit : เล่าจากใจ by พี่จิน
น่ากินมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ คุณแดง 💕
ลบน่ากินสุด ๆ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ พี่แอร์
ลบ